626 จำนวนผู้เข้าชม |
ในช่วงต้นปีมานี้คงไม่มีใคร ไม่ได้ยินวลีฮิตคำว่า Y2K หรือ ยุค Y2K แน่ๆ Y2K ไม่ใช่ทั้งแบรนด์ และไม่ใช่คำย่อสูตรวิทยาศาสตร์อะไร แต่เป็นคำย่อจากกระแสแฟชั่นในยุคหนึ่งที่ได้กลับมาเป็นกระแสอีกครั้งในยุคปัจจุบัน
(Y2K) เกิดจากคำว่า Y= Year 2 และ Kilo ซึ่งในภาษาละตินหมายถึง "1000" ดังนั้น เมื่อรวมกับคำว่า Year และตัวเลขจึงกลายเป็นคำว่า "Year 2000" หรือ "ปี 2000" หรือเรียกแบบย่อเป็น "Y2K"
Y2k คือคำเรียกเทรนด์แฟชั่นในช่วงปลายปี 1990 – 2000 เป็นช่วงปีที่มีการเปลี่ยนผ่านระหว่างยุคอนาล็อก ไปสู่ยุคดิจิตอล ยุคที่เรายังไม่มี Internet ไปสูงโลกไร้ขอบเขต หรือแม้กระทั่งแฟชั่นในช่วงยุคนั้นจะเห็นได้ชัดคือเสื้อตัวเล็ก สายเดี่ยว เอวลอย กางเกงเอวต่ำ กระเป๋าทรง baguette รองเท้าส้นเตารีด สีสันสดใส แวววาว อันเป็นเอกลักษณ์ชัดเจนของแฟชั่นในยุคนั้น
แต่สำหรับวันนี้ ผมจะไม่ได้มาพูดถึงแฟชั่น หรือคนในยุคสมัยนั้นแต่เราจะมาพูดถึงอีกหนึ่งเทรนด์ที่เป็นที่ ฮอต ฮิต อย่างมากในยุคนี้กับเทรนด์กล้อง Digital Camera กล้อง Compact ไซส์จิ๋วขนาดเท่ากระเป๋าตังค์ของเรา หรือเล็กกว่าด้วยซ้ำ
ขอขอบคุณภาพจาก Pinterest
สำหรับผมเองที่รู้สึกว่าการกลับมาทวงบัลลังก์ของกล้องดิจิตอลในยุคนั้น มี 2 เหตุผลหลักใหญ่ๆ
1. ฟิล์มสำหรับกล้องฟิล์มในยุคปัจจุบันแพงขึ้นมาก
สำหรับสายถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์มคงทราบและปวดหัวกันอยู่กับราคาของฟิล์มถ่ายรูปที่แพงขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ หลายๆท่านแก้ปัญหาโดยการต้องหันไปเล่นฟิล์มหนังกัน ซึ่งราคาจะถูกกว่าเกือบครึ่ง ในราคาฟิล์มที่แพงแล้ว เรายังไม่นับรวมค่าล้างอีกนะ เท่ากับการจะเล่นกล้องฟิล์มในปัจจุบันนี้นั้นเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงแน่นอน “กล้องดิจิตอล” ในช่วงยุคนั้นจึงกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง เพราะนอกจากรูปทรงที่มีความคล้างคลึงกับกล้องฟิล์มแล้ว โทนภาพที่ได้ ผมต้องบอกเลยว่าค่อนข้างใกล้เคียงกับโทนภาพฟิล์มเลยทีเดียว อาจเป็นเพราะ Sensor ในกล้องยุคนั้น (CCD SENSOR) ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็น CMOS SENSOR หมดแล้ว หรือ การปรับโทนภาพ Auto ที่สามารถปรับในกล้องได้เลยโดยที่ไม่ต้องเอามาปรับแต่งในมือถือ จึงไม่แปลกที่กระแสของกล้องในยุคนั้นจะกลับมาอีกครั้ง และแน่นอนนอกจากคุณจะได้ภาพที่ใกล้เคียงกับกล้องฟิล์มแล้ว คุณยังสามารถได้ภาพเลยโดยที่ไม่ต้องรอล้าง อีกทั้งราคาก็ถือว่ายังไม่สูงมาก (ยกตัวอย่างกล้อง Canon ของผมเองซื้อมาในราคา 1,000.- ถ้วน) ซึ่งผมมองว่ามันคุ้มมากๆกับภาพที่ได้
ขอขอบคุณร้าน Bungalow River
2. ผู้คนเริ่มนึกถึง และโหยหาความทรงจำในอดีต
คุณเคยได้ยินคำว่า “Nostalgia” กันไหมครับ จริงๆคำนี้ในอดีตมันเป็นคำเรียกเกี่ยวกับอาการหรือโรคชนิดหนึ่ง มันเป็นเหมือนอาการที่เรานึกถึงบ้าน คิดถึงบ้าน หรือใครซักคนจนทำให้เราเริ่มมีอาการต่างๆตามมา เช่นนอนไม่หลับ กินไม่ลง แต่ในยุคปัจจุบันอาการ Nostalgia ไม่ได้ฟังดูแย่เหมือนในอดีต แต่มันคือความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้กับทุกๆคน และมันออกจะดูดีด้วยซ้ำ เหมือนเราได้นึกถึงอดีต ความทรงจำในวัยเด็ก ผ่านการนึกคิด ผ่านการฟังเพลงเก่าๆ และแน่นอนผ่านการดูรูปถ่าย มันทำให้เรารู้สึกอบอุ่นใจ และสบายใจในเวลาเดียวกัน ในขณะเดียวกัน การที่คุณนึกถึงอดีตในบางเรื่องมันยังช่วยทำให้คุณผ่านพ้นปัญหาในปัจจุบันไปได้อีกด้วย
ภาพถ่ายจากกล้องรุ่นคุณป้า มันจึงมี Mood ความเก่าความจางของอดีตอยู่ในตัวโดยที่กล้องในยุคปัจจุบันที่เน้น Detail ไม่สามารถให้อารมณ์และความรู้สึกแบบนั้นกับเราได้
ขอขอบคุณร้าน Rosemary House
ท้ายที่สุดผมยังเชื่อว่ากระแสกล้อง Vintage Camera จะยังคงอยู่กับวัยรุ่นในยุคนี้ไปอีกนาน และดูท่ากระแสความแรงยังยังคงต่อเนื่องไปอีก เพราะความฮิตนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ประเทศไทยบ้านเรา แต่มันเกิดขึ้นในหลายๆประเทศทั่วโลก BBC รายงานโดยอ้างอิงสถิติจากเว็บไซต์ eBay UK ว่า สถิติการค้นหากล้องดิจิทัลในยุคอดีตพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปี 2022 นั้น มียอดการค้นหาคำว่า “vintage digital camera’ มากขึ้นถึง 13 เปอร์เซ็นต์ และยอดการค้นหาใน TikTok แพลตฟอร์มสุดฮิตในปัจจุบัน พบว่าแฮชแท็ก #digitalcamera นั้นมีการค้นหามากถึง 258 ล้านวิว เลยทีเดียว (ขอขอบคุณข้อมูลจาก เพจ The MATTER)
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านในยุคนี้ถ่ายรูปด้วยกล้องในยุคนั้นอย่างมีความสุขครับ
เรียบเรียงโดย ศิวัช กุลสุมิตราวงศ์